ค้นพบแบรนด์และเทคโนโลยีจากหน่วยธุรกิจของเรา เทคโนโลยีกาวเฮงเค็ล (Henkel Adhesive Technologies) และ แบรนด์ผู้บริโภคของเฮงเค็ล (Henkel Consumer Brands)
11 มี.ค. 2568 ดุสเซลดอล์ฟ เยอรมนี
“ปีงบประมาณ 2024 ยังคงเต็มไปด้วยความท้าทายใหญ่หลวงและความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจมากมาย อย่างไรก็ตาม เราได้ขับเคลื่อน Henkel อย่างต่อเนื่องตลอดปีที่ผ่านมา และสามารถบรรลุจุดหมายสําคัญต่าง ๆ เหนือสิ่งอื่นใด ผลประกอบการที่ดีเยี่ยมสําหรับปี 2024 แสดงให้เห็นถึงความสําเร็จในการนําแผนการเติบโตอย่างมีจุดมุ่งหมายของเรามาปรับใช้" Carsten Knobel ซีอีโอของ Henkel กล่าว "ในปี 2024 เราบรรลุการเติบโตของยอดขายจากภายในที่ดีและสามารถปรับปรุงความสามารถในการทำกำไรได้อย่างมีนัยสำคัญ โดยมีอัตรากําไรขั้นต้นเพิ่มขึ้น 2.4 จุดเปอร์เซ็นต์ ซึ่งได้รับแรงสนับสนุนมาจากการพัฒนาอัตรากำไรขั้นต้นที่ยอดเยี่ยม และมีกำไรต่อหุ้นบุริมสิทธิเพิ่มขึ้นอย่างโดดเด่นถึง 25 เปอร์เซ็นต์ การเพิ่มมูลค่าของผลิตภัณฑ์อย่างมีเป้าหมายเพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าและผู้บริโภค เป็นปัจจัยสำคัญที่ขับเคลื่อนการปรับปรุงผลกำไรของเรา นอกจากนี้ การประหยัดจากการควบรวมของหน่วยธุรกิจคอนซูเมอร์แบรนด์ ตลอดจนมาตรการปรับพอร์ตโฟลิโอที่ได้ประกาศไปก่อนหน้านี้ ก็มีส่วนช่วยในการผลักดันผลลัพธ์ที่แข็งแกร่งเหล่านี้ด้วย"
"ในขณะเดียวกัน สิ่งสําคัญอย่างยิ่งก็คือการที่เรายังคงให้ความสำคัญกับการลงทุนในธุรกิจและการเติบโตในอนาคต ตัวอย่างเช่น ไม่ว่าจะเป็นการเพิ่มกิจกรรมทางการตลาดในกลุ่มธุรกิจผู้บริโภค และนวัตกรรมที่ประสบความสําเร็จในทั้งสองหน่วยธุรกิจ เราต้องการให้ผู้ถือหุ้นมีส่วนร่วมในการพัฒนาอย่างประสบความสำเร็จของบริษัท ดังนั้น เราจะเสนอการปรับเพิ่มเงินปันผล เป็นร้อยละสองหลักในการประชุมสามัญประจําปี นอกจากนี้ เรายังได้ตัดสินใจเกี่ยวกับโปรแกรมซื้อคืนหุ้นใหม่ที่มีมูลค่าสูงถึง 1 พันล้านยูโร" Carsten Knobel กล่าวต่อ
"ผลลัพธ์ของปีที่ผ่านมาเป็นหลักฐานชัดเจนว่าการเปลี่ยนแปลงของ Henkel กําลังก้าวไปข้างหน้าอย่างประสบความสําเร็จ และด้วยแผนกลยุทธ์เพื่อการเติบโตอย่างมีจุดมุ่งหมาย เรากำลังอยู่บนเส้นทางที่ถูกต้องเพื่อวางตำแหน่งบริษัทให้พร้อมสำหรับอนาคต" Carsten Knobel สรุป "นอกจากนี้ยังสะท้อนให้เห็นในแนวโน้มสำหรับปีงบประมาณ 2025 ซึ่งเราคาดว่าจะมีการเติบโตของยอดขายและ ผลกำไรต่อไป แม้ว่าสภาพแวดล้อมทางธุรกิจจะยังคงมีความท้าทาย ผมขอขอบคุณพนักงานทุกคนของ Henkel สําหรับผลการปฏิบัติงานที่ยอดเยี่ยม ด้วยการทํางานเป็นทีมและความมุ่งมั่นที่เหนือความคาดหมาย เราจึงสามารถนำบริษัทฝ่าความท้าทายในปีที่ผ่านมาได้ อีกครั้งอย่างประสบความสำเร็จ
หลังจากแรงขับเคลื่อนการเติบโตที่อยู่ระดับปานกลางในปี 2024 การเติบโตทางเศรษฐกิจโลกในปี 2025 คาดว่าจะยังคงอยู่ในระดับปานกลางอีกครั้ง สำหรับ Henkel คาดว่าจะมีการเติบโตระดับปานกลางทั้งในด้านความต้องการของภาคอุตสาหกรรมและความต้องการของผู้บริโภคในธุรกิจคอนซูเมอร์แบรนด์ นอกจากนี้ จากการประเมินในปัจจุบัน คาดว่าอัตราเงินเฟ้อทั่วโลกจะยังคงลดลงต่อเนื่องในปีงบประมาณ 2025 เมื่อเทียบกับปีก่อน ๆ และคาดว่าอัตราดอกเบี้ยก็จะลดลงเช่นกัน
ในส่วนของราคาวัตถุดิบ Henkel คาดว่าราคาวัตถุดิบจะเพิ่มขึ้นในช่วงเปอร์เซ็นต์ตัวเลขหลักหน่วยระดับต่ำถึงกลางเมื่อเทียบกับค่าเฉลี่ยประจําปีในปี 2024 อัตราแลกเปลี่ยนคาดว่าจะมีผลกระทบในระดับกลางถึงลบ ในช่วงเปอร์เซ็นต์ตัวเลขหลักเดียวระดับต่ำ
นอกจากนี้ความผันผวนและความไม่แน่นอนในด้านสภาพแวดล้อมทางเศรษฐกิจมหภาคและภูมิรัฐศาสตร์โดยรวมคาดว่าจะยังคงอยู่ในระดับสูงตลอดทั้งปี
เมื่อพิจารณาจากสมมติฐานเหล่านี้ Henkel คาดว่าจะสามารถสร้างการเติบโตของยอดขายจากภายในได้ระหว่าง 1.5 ถึง 3.5 เปอร์เซ็นต์ในปีงบประมาณ 2025 คาดว่าหน่วยธุรกิจเทคโนโลยีกาวจะมีการเติบโตจากภายในระหว่าง 2.0 และ 4.0 เปอร์เซ็นต์ และหน่วยธุรกิจคอนซูเมอร์แบรนด์จะมีการเติบโตระหว่าง 1.0 และ 3.0 ผลตอบแทนจากยอดขายที่ปรับแล้ว (อัตรากำไร EBIT ที่ปรับแล้ว) คาดว่าจะอยู่ในช่วง 14.0 ถึง 15.5 เปอร์เซ็นต์ สําหรับเทคโนโลยีกาว คาดว่าผลตอบแทนจากยอดขายที่ปรับแล้วจะอยู่ระหว่าง 16.0 ถึง 17.5 เปอร์เซ็นต์ และสําหรับธุรกิจคอนซูเมอร์แบรนด์จะอยู่ระหว่าง 13.5 ถึง 15.0 เปอร์เซ็นต์ สำหรับกําไรต่อหุ้นบุริมสิทธิ (EPS) ที่ปรับแล้วที่อัตราแลกเปลี่ยนคงที่ คาดว่าจะมีการเพิ่มขึ้นในช่วงเปอร์เซ็นต์ตัวเลขหลักหน่วยระดับต่ำถึงสูง
ดังนั้น จึงคาดว่าจะมีการเริ่มต้นปีที่ช้ากว่าปกติ อย่างไรก็ตาม คาดว่าการเติบโตของยอดขายจากภายในจะดีขึ้นในช่วงระหว่างปี ส่งผลให้ครึ่งหลังของปีงบประมาณ 2025 มีผลการดำเนินงานที่ดีกว่าครึ่งแรก โดยสิ่งนี้จะเกิดขึ้นสําหรับทั้งสองหน่วยธุรกิจ สาเหตุเกิดจากสภาพแวดล้อมทางอุตสาหกรรมที่ท้าทายในปัจจุบัน และการเติบโตของตลาดที่ชะลอตัวรวมถึงความเชื่อมั่นของผู้บริโภคที่ซบเซา ในบางตลาดของเรา โดยเฉพาะในอเมริกาเหนือ
ในหน่วยธุรกิจคอนซูเมอร์แบรนด์ จําเป็นต้องพิจารณาถึงการเติบโตของยอดขายจากภายในที่สูงในปีก่อนหน้า โดยเฉพาะอย่างยิ่ง จากการเปิดตัวผลิตภัณฑ์นวัตกรรมที่แข็งแกร่งในครึ่งแรกของปี 2024 ในปี 2025 การเปิดตัวนวัตกรรมเน้นไปยังครึ่งปีหลัง นอกจากนี้ การรวบการดำเนินงานของกิจกรรมซัพพลายเชน ผ่านโปรเจค 1-1-1 รวมไปถึงกิจกรรมทางการขาย จะส่งผลให้การเติบโตของยอดขายในไตรมาสที่ 1 อยู่ต่ำกว่าปีก่อนหน้า สําหรับไตรมาสที่ 1 การเติบโตของยอดขายจากภายในคาดว่าจะอยู่ในช่วงระหว่าง
-2 และ -4 เปอร์เซ็นต์ ในขณะที่ราคาขายคาดว่าจะสูงขึ้น สำหรับปี 2025 ตลอดทั้งปี โดยรวมคาดว่าจะมีการเติบโตของยอดขายในเชิงบวก ซึ่งได้รับแรงขับเคลื่อนจากทั้งปริมาณขายและราคาขาย
สำหรับปี 2025 ตลอดทั้งปี คาดว่าทั้งสองหน่วยธุรกิจและกลุ่มบริษัทจะมีการปรับปรุงอัตรากำไรและความสามารถในการทำกำไรเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า การพัฒนาในช่วงสองเดือนแรกของปีงบประมาณ 2025 แสดงให้เห็นว่า Henkel และทั้งสองหน่วยธุรกิจกำลังดำเนินไปได้ด้วยดี
ยอดขายของกลุ่มบริษัท Henkel สูงถึง 21,586 ล้านยูโรในปีงบประมาณ 2024 ซึ่งเพิ่มขึ้น 0.3 เปอร์เซ็นต์เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า ผลกระทบจากอัตราแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศส่งผลเชิงลบกับยอดขาย -1.8 เปอร์เซ็นต์ หากปรับผลกระทบจากอัตราแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศดังกล่าว การเติบโตของยอดขายจะอยู่ที่ 2.1 เปอร์เซ็นต์ การเข้าซื้อกิจการ/การถอนการลงทุนมีผลกระทบในเชิงลบเล็กน้อยที่ -0.4 เปอร์เซ็นต์ต่อยอดขาย ซึ่งส่วนใหญ่เกิดจากการละทิ้งกิจกรรมทางธุรกิจของเราในรัสเซียในปี 2023 การเติบโตของยอดขายจากภายใน ซึ่งปรับผลกระทบจากอัตราแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศและการเข้าซื้อกิจการ/การถอนการลงทุน แสดงให้เห็นถึงการพัฒนาที่ดีที่ 2.6 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งได้รับแรงผลักดันจากการพัฒนาราคาที่ดีและปริมาณในเชิงบวก
หน่วยธุรกิจเทคโนโลยีกาวสามารถสร้างการเติบโตของยอดขายจากภายในที่ดีถึง 2.4 เปอร์เซ็นต์ โดยได้รับแรงผลักดันจากธุรกิจการเคลื่อนที่และอิเล็กทรอนิกส์ หน่วยธุรกิจคอนซูเมอร์แบรนด์สามารถสร้างการเติบโตของยอดขายภายในที่แข็งแกร่งถึง 3.0 เปอร์เซ็นต์ โดยได้รับแรงผลักดันหลักจากธุรกิจด้านเส้นผม
กําไรจากการดําเนินงานที่ปรับแล้ว (EBIT ที่ปรับแล้ว) เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสําคัญ 20.9 เปอร์เซ็นต์เป็น 3,089 ล้านยูโร (ปีก่อนหน้า: 2,556 ล้านยูโร)
ผลตอบแทนจากยอดขายที่ปรับแล้ว (อัตรากำไร EBIT ที่ปรับแล้ว) ในปีงบประมาณ 2024 ยังสูงขึ้นอย่างมีนัยสําคัญเมื่อเทียบกับปีที่แล้วที่ 14.3 เปอร์เซ็นต์ (2023: 11.9 เปอร์เซ็นต์)
กำไรต่อหุ้นบุริมสิทธิที่ปรับแล้วเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญถึง 23.2 เปอร์เซ็นต์ เป็น 5.36 ยูโร (ปีก่อนหน้า: 4.35 ยูโร) หากใช้อัตราแลกเปลี่ยนคงที่ กำไรต่อหุ้นบุริมสิทธิที่ปรับแล้วเพิ่มขึ้น 25.1 เปอร์เซ็นต์
เงินทุนหมุนเวียนสุทธิเป็นเปอร์เซ็นต์ของยอดขายอยู่ที่ 3.0 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งเพิ่มขึ้นเล็กน้อยเมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า (2023: 2.6 เปอร์เซ็นต์)
กระแสเงินสดรวมทั้งสิ้น 2,362 ล้านยูโร ซึ่งลดลงเมื่อเทียบกับตัวเลขของปีที่ผ่านมา (2023: 2,603 ล้านยูโร) โดยตัวเลขปีก่อนหน้าได้รับผลกระทบเชิงบวกจากการปรับตัวของทุนหมุนเวียนสุทธิให้เป็นปกติ
สถานะทางการเงินสุทธิอยู่ที่ -93 ล้านยูโร ซึ่งต่ำกว่าระดับของปีที่ผ่านมาเล็กน้อย โดยเฉพาะอย่างยิ่งเนื่องจากการชำระเงินสำหรับการเข้าซื้อกิจการ (ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2023: 12 ล้านยูโร)
คณะกรรมการบริหาร คณะกรรมการกำกับดูแล และคณะกรรมการผู้ถือหุ้นจะเสนอให้ที่ประชุมผู้ถือหุ้นสามัญประจำปีในวันที่ 28 เมษายน 2025 เพิ่มเงินปันผล 10.3 เปอร์เซ็นต์เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า ซึ่งเท่ากับ 2.04 ยูโรต่อหุ้นบุริมสิทธิ และ 2.02 ยูโรต่อหุ้นสามัญ (+10.4 เปอร์เซ็นต์) อัตราส่วนการจ่ายเงินปันผลคิดเป็น 37.9 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งอยู่ในช่วงเป้าหมายที่กำหนดไว้ระหว่าง 30 ถึง 40 เปอร์เซ็นต์ การเพิ่มขึ้นของเงินปันผลเป็นไปได้ด้วยผลการดำเนินงานทางการเงินที่แข็งแกร่งในปีงบประมาณที่ผ่านมา และฐานะทางการเงินที่แข็งแกร่ง ของกลุ่มบริษัท Henkel
ยอดขายของหน่วยธุรกิจเทคโนโลยีกาวในปีงบประมาณ 2024 อยู่ที่ 10,970 ล้านยูโร เพิ่มขึ้น 1.7 เปอร์เซ็นต์เมื่อเทียบกับปีก่อนในแง่ตัวเลขที่รายงาน แม้ว่าผลกระทบจากอัตราแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศจะส่งผลกระทบเชิงลบที่ -1.8 เปอร์เซ็นต์ การเข้าซื้อกิจการ/การถอนการลงทุนช่วยเพิ่มยอดขายขึ้น 1.1 เปอร์เซ็นต์ ยอดขายที่มาจากตัวธุรกิจเองเพิ่มขึ้น 2.4 เปอร์เซ็นต์ การเติบโตของยอดขายนี้ได้รับแรงขับเคลื่อนเป็นพิเศษจากการเพิ่มขึ้นของปริมาณในช่วงครึ่งหลังของปีเมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า ซึ่งส่วนใหญ่มาจากอุปสงค์ที่เพิ่มขึ้นในตลาดปลายทางหลักบางแห่ง ราคายังคงไม่เปลี่ยนแปลงเมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า ผลกําไรจากการดำเนินงานที่ปรับแล้วอยู่ที่ 1,817 ล้านยูโร โดยเพิ่มขึ้นเป็นเปอร์เซ็นต์ตัวเลขสองหลักเมื่อเทียบกับปีก่อน ซึ่งถือเป็นสถิติใหม่ระดับสูงสุดสำหรับหน่วยธุรกิจนี้ ผลตอบแทนจากยอดขายที่ปรับแล้วยังเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญที่ 190 เบซิสพอยท์ เป็น 16.6 เปอร์เซ็นต์
ยอดขายของหน่วยธุรกิจคอนซูเมอร์แบรนด์ในปีที่รายงานมีมูลค่ารวม 10,467 ล้านยูโร ลดลง -0.9 เปอร์เซ็นต์เมื่อเทียบกับปีก่อนในแง่ตัวเลขที่รายงาน ผลกระทบจากอัตราแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศทำให้ยอดขายลดลง -1.8 เปอร์เซ็นต์ การเข้าซื้อกิจการ/การถอนการลงทุนมีผลกระทบในเชิงลบที่ -2.0 เปอร์เซ็นต์ต่อยอดขาย โดยการละทิ้งกิจกรรมทางธุรกิจในรัสเซียในเดือนเมษายน 2023 ยังคงเป็นสาเหตุหลัก ยอดขายที่มาจากตัวธุรกิจเองเพิ่มขึ้น 3.0 เปอร์เซ็นต์ การเติบโตของยอดขายนี้เกิดจากการพัฒนาราคาที่แข็งแกร่งอย่างมาก ในขณะที่ปริมาณการขายลดลงเนื่องจากมาตรการเพิ่มประสิทธิภาพพอร์ตโฟลิโออย่างต่อเนื่องเป็นหลัก ผลกําไรจากการดําเนินงานที่ปรับแล้วมีมูลค่า 1,419 ล้านยูโร ซึ่งสูงกว่าปีก่อนหน้าอย่างมีนัยสําคัญ (1,115 ล้านยูโร) ผลตอบแทนจากยอดขายที่ปรับแล้วอยู่ที่ 13.6 เปอร์เซ็นต์ และเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสําคัญ 300 เบสิสพอยท์เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า
ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา Henkel ได้ทำการเปลี่ยนแปลงอย่างลึกซึ้งในหลายด้าน และได้ดำเนินการตามแผนกลยุทธ์เพื่อการเติบโตอย่างมีจุดมุ่งหมายอย่างต่อเนื่อง ปัจจัยสำคัญที่ขับเคลื่อนความสำเร็จระยะยาวและยั่งยืนคือความเต็มใจและความมุ่งมั่นในการเปลี่ยนแปลงอย่างต่อเนื่อง เป้าหมายคือการบรรลุผลลัพธ์ที่ดีขึ้นอย่างยั่งยืน เพื่อบรรลุเป้าหมายนี้ บริษัทต้องมีการเปลี่ยนแปลงและพัฒนาอย่างต่อเนื่องในทุกด้าน
การเปลี่ยนแปลงที่อาจจะสำคัญที่สุดในประวัติศาสตร์ล่าสุดของ Henkel คือการควบรวมธุรกิจสินค้าอุปโภคบริโภคของเราเข้าเป็นหน่วยธุรกิจคอนซูเมอร์แบรนด์ ซึ่งได้รับการประกาศในช่วงต้นปี 2022 นับตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา มีหลายอย่างเกิดขึ้น หน่วยธุรกิจได้เริ่มดำเนินการในรูปแบบใหม่ตั้งแต่ต้นปี 2023 และการพัฒนาในทางบวกได้เริ่มปรากฏชัดในปีนั้นแล้ว ในปีงบประมาณ 2024 ที่ผ่านมา เห็นได้ชัดว่าการตัดสินใจของเราในการรวมธุรกิจคอนซูเมอร์แบรนด์ที่เคยแยกออกจากกันก่อนหน้านี้เข้าเป็นแพลตฟอร์มเดียวของเราเป็นการตัดสินใจที่ถูกต้อง
การผสานรวมหน่วยธุรกิจคอนซูเมอร์แบรนด์ได้ดำเนินไปอย่างรวดเร็วกว่าที่วางแผนไว้ในตอนแรก ทั้งในด้านการผสานรวมทีม การปรับโครงสร้างพอร์ตโฟลิโอ ตลอดจนความสําเร็จของการทํางานร่วมกัน ระยะแรกของการผสานรวม ซึ่งเกี่ยวข้องกับการผนวกรวมทีมขายและทีมการตลาดเข้าด้วยกันเป็นหลักเสร็จสมบูรณ์ในปี 2024 ในระยะที่สอง ซึ่งดําเนินต่อเนื่องมาตั้งแต่ปี 2023 การประหยัดต้นทุนทั้งหมดจากกิจกรรมซัพพลายเชน กล่าวคือ เครือข่ายการผลิตและกิจกรรมซัพพลายเชน คาดว่าจะบรรลุผลภายในสิ้นปี 2025
ในขณะเดียวกัน หน่วยธุรกิจคอนซูเมอร์แบรนด์มุ่งเน้นกิจกรรมอย่างต่อเนื่องในแบรนด์และธุรกิจที่แข็งแกร่งและที่มีอัตรากำไรขั้นต้นสูง ตลอดจนตำแหน่งผู้นำในตลาดและหมวดหมู่สินค้า ผลกระทบเชิงบวกจากการมุ่งเน้นที่การเติบโตที่แข็งแกร่งของแบรนด์และธุรกิจที่มีอัตรากำไรสูงกำลังให้ผลลัพธ์ที่ดี: แบรนด์สิบอันดับแรกในกลุ่มคอนซูเมอร์แบรนด์ ซึ่งมีสัดส่วนมากกว่าครึ่งหนึ่งของรายได้ในปี 2024 ประสบความสำเร็จในการเติบโตภายในอย่างแข็งแกร่งมาก พร้อมกับการเติบโตของปริมาณที่เป็นบวก
นอกจากนี้ หน่วยธุรกิจเทคโนโลยีกาวก็ยังมีความก้าวหน้าอย่างมีนัยสำคัญในช่วงปีที่นํามาพิจารณา โดยมีผลการดำเนินงานทางธุรกิจโดยรวมที่ดี หน่วยธุรกิจนี้นำเสนอผลิตภัณฑ์และโซลูชันประมาณ 20,000 รายการให้กับลูกค้ากว่า 100,000 รายทั่วโลก ครอบคลุมอุตสาหกรรมมากกว่า 800 กลุ่มธุรกิจ ความกว้างขวางและความลึกของพอร์ตโฟลิโอนี้ ผสานกับการมีสํานักงานทั่วโลกและความเชี่ยวชาญในการพัฒนาโซลูชันที่มุ่งเน้นลูกค้าเป็นศูนย์กลาง ทําให้ Henkel มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวในตลาดและช่วยให้บริษัทสามารถขยายตำแหน่งผู้นำในตลาดโลกได้ต่อไป เทคโนโลยีกาวกำลังมุ่งเน้นไปยังแนวโน้มสำคัญในอนาคตผ่านสามกลุ่มธุรกิจหลัก ได้แก่ การเคลื่อนที่และอิเล็กทรอนิกส์ บรรจุภัณฑ์และสินค้าอุปโภคบริโภค และช่างฝีมือ การก่อสร้าง และมืออาชีพ สิ่งเหล่านี้รวมถึงการขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้า (e-mobility) และการเชื่อมต่อ ซึ่งหมายถึงการเชื่อมต่อระหว่างระบบเพิ่มมากขึ้น ตลอดจนความยั่งยืน
โครงสร้างที่กระชับของพื้นที่ธุรกิจ ซึ่งบางส่วนประกอบด้วยทีมผู้นําใหม่ และการมุ่งเน้นอย่างต่อเนื่องในแนวโน้มของอนาคต มีส่วนช่วยส่งเสริมการพัฒนาหน่วยธุรกิจที่ประสบความสําเร็จในปี 2024 ที่ท้าทาย
ในสภาพแวดล้อมทางเศรษฐกิจมหภาคและภูมิรัฐศาสตร์ที่ท้าทาย Henkel ยังคงดําเนินการตามกลยุทธ์การเติบโตอย่างต่อเนื่องในปีงบประมาณที่ผ่านมา และมีความก้าวหน้าที่สําคัญในทุกด้าน บริษัทได้พัฒนาพอร์ตโฟลิโอธุรกิจและแบรนด์ของตนต่อไป เสริมสร้างความได้เปรียบในการแข่งขันด้านนวัตกรรม ความยั่งยืน และการแปลงเป็นระบบดิจิทัล ปรับรูปแบบการดําเนินงานให้เหมาะสม และเสริมสร้างวัฒนธรรมองค์กร
ในฐานะส่วนหนึ่งของการบริหารจัดการพอร์ตโฟลิโอแบบเชิงรุก Henkel ได้พัฒนาพอร์ตโฟลิโอต่อไปโดยการยุติหรือถอนการลงทุนกิจกรรมบางส่วน รวมถึงการเข้าซื้อกิจการ ด้วยการขายของธุรกิจแบรนด์ร้านค้าปลีกในอเมริกาเหนือเมื่อต้นปีนี้ จึงทำให้ Henkel สามารถสรุปมาตรการพอร์ตโฟลิโอได้แล้ว ซึ่งได้มีการประกาศพร้อมกับการเริ่มต้นการควบรวมกิจการธุรกิจคอนซูเมอร์แบรนด์ที่เคยแยกออกจากกันก่อนหน้านี้ ธุรกิจแบรนด์ร้านค้าปลีกถูกระบุว่าเป็นกิจกรรมที่ไม่ใช่แกนหลักภายในหน่วยธุรกิจคอนซูเมอร์แบรนด์เนื่องจากศักยภาพในการใช้ประโยชน์จากการทำงานร่วมกันและความเหมาะสมเชิงกลยุทธ์ในอนาคตกับแพลตฟอร์มธุรกิจคอนซูเมอร์แบรนด์บริโภคแบบบูรณาการนั้นมีจำกัด รวมการทําธุรกรรมนี้ด้วย Henkel ได้ถอนการลงทุนหรือยุติแบรนด์และกิจกรรมต่าง ๆ ที่มียอดขายรวมมากกว่า 1 พันล้านยูโรเล็กน้อยตั้งแต่ต้นปี 2022
การบริหารจัดการพอร์ตโฟลิโอแบบเชิงรุกยังรวมถึงการเสริมสร้างและขยายพอร์ตโฟลิโอผ่านการเข้าซื้อกิจการด้วย: เมื่อต้นปี 2024 Henkel ได้เข้าซื้อกิจการแบรนด์ผลิตภัณฑ์ดูแลเส้นผมที่มีชื่อเสียงอย่าง Vidal Sassoon ในประเทศจีน การเข้าซื้อกิจการครั้งนี้ช่วยเสริมความแข็งแกร่งให้กับพอร์ตโฟลิโอท้องถิ่นของธุรกิจคอนซูเมอร์แบรนด์ในประเทศจีนได้อย่างสมบูรณ์แบบ โดยครอบคลุมกลุ่มผลิตภัณฑ์ระดับพรีเมียมในธุรกิจค้าปลีก พอร์ตโฟลิโอของแบรนด์ Vidal Sassoon มุ่งเน้นตลาดผลิตภัณฑ์ดูแลเส้นผมระดับพรีเมียมเป็นหลัก โดยประกอบด้วยแชมพูและครีมนวดผม รวมถึงผลิตภัณฑ์สำหรับจัดแต่งทรงผมและบำรุงเส้นผมอีกด้วย
นอกจากนี้ Henkel ยังได้ลงทุนในการเข้าซื้อกิจการเพื่อขยายพอร์ตโฟลิโอภายในหน่วยธุรกิจเทคโนโลยีกาว โดยเข้าซื้อกิจการของบริษัท Seal for Life Industries ที่มีฐานอยู่ในสหรัฐอเมริกา บริษัทแห่งนี้ให้บริการสารเคลือบป้องกันและโซลูชันการซีลสำหรับโครงสร้างพื้นฐานในอุตสาหกรรมต่าง ๆ เช่น พลังงานหมุนเวียน ก๊าซ และน้ำ การเข้าซื้อกิจการครั้งนี้ช่วยเสริมการเข้าซื้อกิจการ Critica Infrastructure ในปี 2023 ซึ่งเป็นบริษัทที่เชี่ยวชาญด้านการบํารุงรักษาและซ่อมแซมโครงสร้างพื้นฐาน ด้วยการเข้าซื้อกิจการเหล่านี้ เราจึงได้ขยายพอร์ตโฟลิโอที่มีอยู่ของเราในธุรกิจการซ่อมบํารุง และการยกเครื่องที่น่าดึงดูดและมีแนวโน้มดี ช่วยสร้างแพลตฟอร์มสําหรับการเติบโตต่อไป
ในปี 2024 Henkel ได้เปิดตัวนวัตกรรมมากมายสู่ตลาด ซึ่งตอบสนองต่อแนวโน้มที่สําคัญและสร้างคุณค่าให้กับลูกค้าและผู้บริโภค สำหรับธุรกิจหน่วยเทคโนโลยีกาว ได้มีการเปิดศูนย์ทดสอบแบตเตอรี่ที่ทันสมัยแห่งหนึ่งเมื่อปีที่แล้วที่สำนักงานใหญ่ ซึ่งเชื่อมต่อโดยตรงกับศูนย์นวัตกรรมระดับโลกที่ใหญ่ที่สุดของหน่วยธุรกิจ Inspiration Center Düsseldor
ด้วยศูนย์ทดสอบแห่งใหม่นี้ Henkel จึงได้ขยายขีดความสามารถของตนในภาคส่วนการขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้า (e-mobility) อย่างมีนัยสําคัญ และเสริมสร้างตําแหน่งของตนในฐานะพันธมิตรด้านการพัฒนาและนวัตกรรมชั้นนําสําหรับผู้ผลิตยานยนต์และผู้ผลิตแบตเตอรี่
ตัวอย่างของนวัตกรรมในธุรกิจคอนซูเมอร์แบรนด์คือเทคโนโลยีเอนไซม์ที่พัฒนาขึ้นใหม่สําหรับ Perwoll ซึ่งไม่เพียงแค่ดูแลสิ่งทอเท่านั้น แต่ยังช่วยรักษาสีของเสื้อผ้าให้คงทนยาวนานขึ้นอีกด้วย ผลกระทบจากการฟื้นฟูเส้นใยจะมองเห็นได้หลังจากซักสิบครั้งแล้ว ซึ่งช่วยส่งเสริมความทนทานของเนื้อผ้าให้ยาวนานยิ่งขึ้น
นอกจากนี้ Henkel ยังได้ฝังรากลึกด้านความยั่งยืนในธุรกิจและเพิ่มความมุ่งมั่นในด้านนี้อย่างต่อเนื่อง เพื่อบรรลุเป้าหมายนี้ Henkel จึงได้พัฒนาแผนงานการลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนสุทธิเป็นศูนย์ขึ้นมาเป็นส่วนหนึ่งของกระบวนการนี้ ซึ่งรวมถึงเป้าหมายที่ขยายออกไปสำหรับการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกตลอดทั้งห่วงโซ่คุณค่า บริษัทมีเป้าหมายที่จะมีส่วนร่วมอย่างมีผลผูกพันในการจำกัดการเพิ่มขึ้นของอุณหภูมิโลกให้เหลือ 1.5 °C ตามที่ตกลงกันไว้ในข้อตกลงปารีสว่าด้วยสภาพภูมิอากาศ แผนงานของ Henkel ได้รับการรับรองจากโครงการ Science Based Targets ซึ่งมีรายละเอียดระบุถึงสิ่งที่บริษัทกำลังดำเนินการของเราเพื่อบรรลุเป้าหมายการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ภายในปี 2045 ซึ่งรวมถึงมาตรการที่หลากหลายตลอดห่วงโซ่คุณค่าทั้งหมด นอกจากนี้ Henkel ยังเป็นบริษัทรายแรกที่จดทะเบียนในดัชนี DAX ที่นำการลาหยุดเพื่อดูแลบุตรหลังคลอดที่เท่าเทียมทางเพศมาใช้ทั่วโลก – โดยมีการชดเชยเงินเดือนเต็มจำนวน การดำเนินการนี้ได้รับการตอบรับอย่างดีมากจากทั้งพนักงานและสาธารณชน
นอกจากนี้ Henkel ยังมีความก้าวหน้ามากขึ้นในด้านการแปลงเป็นระบบดิจิทัลอีกด้วย ในปี 2024 ความก้าวหน้าอย่างรวดเร็วในปัญญาประดิษฐ์ (AI) ถือเป็นหัวข้อสำคัญ ที่ Henkel AI เป็นส่วนสำคัญของกลยุทธ์ดิจิทัลของเรามาเป็นเวลาหลายปี ตัวอย่างเช่น AI ถูกนําไปใช้ในกระบวนการอัตโนมัติ ในห้องปฏิบัติการพัฒนากาว ในสถานที่ผลิตที่เชื่อมต่อกันทั่วโลกแบบเสมือนจริง ในหุ่นยนต์อัตโนมัติในสถานที่ผลิต และในการใช้แชทบอทบนเว็บไซต์แบรนด์ของ Henkel ในปี 2024 หน่วยงานดิจิทัล Henkel dx ได้ปรับปรุงโครงสร้างภายในให้เหมาะสมยิ่งขึ้น เสริมสร้างความเชี่ยวชาญด้านดิจิทัลให้แข็งแกร่ง และส่งเสริมวัฒนธรรมแห่งนวัตกรรมแบบเปิด นอกจากนี้ Henkel ยังได้รับประโยชน์จากความร่วมมือเชิงกลยุทธ์กับบริษัทดิจิทัลชั้นนําระดับโลก อย่างเช่น SAP, Microsoft และ Adobe อีกด้วย ความร่วมมือเหล่านี้ช่วยให้ Henkel สามารถผสานรวมเทคโนโลยีล้ำสมัยเข้ากับแพลตฟอร์มและโครงการดิจิทัลของตนได้ ด้วยการเร่งนวัตกรรมดิจิทัล การปรับปรุงกลยุทธ์แพลตฟอร์ม และการเพิ่มความร่วมมือข้ามสายงานทั่วทั้งหน่วยธุรกิจและฟังก์ชันต่าง ๆ Henkel จึงสามารถปรับปรุงประสิทธิภาพด้านไอทีได้อย่างมีนัยสำคัญ
ในฐานะส่วนหนึ่งของกลยุทธ์การเติบโตในระยะยาว Henkel กําลังปรับหน่วยธุรกิจให้สอดคล้องกับความต้องการของตลาดที่มีการเปลี่ยนแปลงและความคาดหวังของลูกค้าที่เปลี่ยนแปลงอยู่เสมอ เพื่อให้บรรลุความสําเร็จระยะยาวด้วยรูปแบบการดําเนินงานที่พร้อมสําหรับอนาคต ซึ่งรวมถึงการปรับปรุงกระบวนการทางธุรกิจ ทั่วทั้งบริษัทอย่างต่อเนื่อง ตัวอย่างหนึ่งคือการจัดตั้งศูนย์เทคโนโลยีระดับโลกในเมืองบังกาลอร์ ประเทศอินเดีย ซึ่งมีผู้เชี่ยวชาญด้านไอทีมากกว่า 500 คนกำลังทำงานเพื่อสร้างศูนย์ดิจิทัลภายในที่มีการบูรณาการอย่างครบวงจร ด้วยเหตุนี้ Henkel จึงเพิ่มประสิทธิภาพด้านต้นทุนและเสริมสร้าง ความเชี่ยวชาญภายในองค์กร มีการวางแผนขยายศูนย์เทคโนโลยีเพิ่มเติมในปีต่อ ๆ ไป นอกจากนี้ Henkel ยังได้รวมกิจกรรมการลงทุนทั้งหมดไว้ภายใต้หลังคาเดียวกันอีกด้วย ในโอกาสของการโอนย้ายไปยัง S/4Hana ในปี 2025 ถึง 2028 Henkel จะประเมินวิธีการทําให้โครงสร้างและกระบวนการของตนมีความคล่องตัวและยืดหยุ่นมากขึ้น ในบริบทนี้ ตัวอย่างเช่น มีการพิจารณาจัดตั้งนิติบุคคลแยกต่างหากสำหรับสองหน่วยธุรกิจที่มีอยู่ โดยเริ่มจากประเทศเยอรมนี ตามด้วยการดําเนินการทีละขั้นตอน (หากมี) ในประเทศขนาดใหญ่ที่เลือก การจัดการเชิงกลยุทธ์และการดำเนินงานของกลุ่มและหน่วยธุรกิจจะยังคงไม่เปลี่ยนแปลง แนวทางนี้มีเป้าหมาย เพื่อสนับสนุนทั้งความต้องการในอนาคตของธุรกิจ ตลอดจนแผนการเติบโตของ Henkel
นอกจากนี้ Henkel ยังเสริมสร้างวัฒนธรรมบริษัทให้แข็งแกร่งยิ่งขึ้นในปีที่ผ่านมา โครงการริเริ่ม Accelerate Cultural Transformation (ACT) ซึ่งเปิดตัวในปี 2023 ได้ดําเนินต่อไปอย่างประสบความสําเร็จทั่วทั้งองค์กรระดับโลก โครงการริเริ่มนี้มุ่งส่งเสริมการสนทนาที่ลึกซึ้งและความเชื่อมโยงที่แน่นแฟ้นยิ่งขึ้นภายในทีม ในปีที่ผ่านมา โครงการริเริ่ม ACT มุ่งเน้นไปที่การให้และรับมือกับข้อเสนอแนะเชิงสร้างสรรค์อย่างเปิดกว้าง วัฒนธรรมแห่งความร่วมมือมีความเชื่อมโยงอย่างใกล้ชิดกับการส่งเสริมความหลากหลาย ความเสมอภาค และการยอมรับความแตกต่าง เพื่อยกระดับความหลากหลายให้ดียิ่งขึ้น Henkel จึงปฏิบัติตามกลยุทธ์ที่ยึดตามหลักสำคัญสามประการ ได้แก่: ประการแรก คือการสร้างความตระหนักรู้ผ่านรูปแบบต่าง ๆ เช่น แคมเปญและกิจกรรม ประการที่สอง คือการเสริมสร้างพฤติกรรมที่มีส่วนร่วมผ่านโปรแกรมการฝึกอบรมสำหรับผู้นำและพนักงาน และประการที่สาม คือการปรับปรุงสภาพโครงสร้างอย่างต่อเนื่อง เช่น การเสนอโปรแกรมที่สนับสนุนความสมดุลระหว่างชีวิตการทํางานและชีวิตส่วนตัว รวมถึงการขจัดอุปสรรคทางโครงสร้าง
หนึ่งในความทะเยอทะยานของ Henkel คือการบรรลุความเสมอภาคระหว่างเพศในทุกระดับการบริหารภายในสิ้นปี 2025 ปัจจุบัน ประมาณ 42 เปอร์เซ็นต์ของตําแหน่งผู้บริหารที่ Henkel ทั่วโลกเป็นผู้หญิง
"ปีงบประมาณ 2024 เป็นปีที่ประสบความสําเร็จและสําคัญมากสําหรับ Henkel เราบรรลุเป้าหมายทางการเงินของเรา ซึ่งเราได้ปรับเพิ่มขึ้นสองครั้งในปีนี้ เราได้ดําเนินการตามแผนการเติบโตอย่างมีจุดมุ่งหมายอย่างสม่ำเสมอในทุกมิติทางกลยุทธ์ และขับเคลื่อนการเปลี่ยนแปลงไปข้างหน้าด้วยความมุ่งมั่นและความสําเร็จ เรากำลังก้าวไปในเส้นทางที่ถูกต้อง และการเปลี่ยนแปลงของบริษัทกำลังแสดงผลลัพธ์ที่เป็นรูปธรรม ด้วยกลยุทธ์ที่ชัดเจน ทีมงานที่แข็งแกร่ง และวัฒนธรรมองค์กรที่เป็นเอกลักษณ์ เราพร้อมสำหรับอนาคต" Carsten Knobel สรุป
* ปรับค่าใช้จ่ายและรายได้แบบครั้งเดียว และค่าใช้จ่ายจากการปรับโครงสร้างแล้ว
เอกสารนี้ประกอบด้วยคําแถลงที่อ้างถึงการพัฒนาธุรกิจในอนาคต ผลการดําเนินงานทางการเงิน และเหตุการณ์หรือการพัฒนาอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องกับ Henkel ในอนาคต ซึ่งอาจถือเป็นคําแถลงการคาดการณ์ล่วงหน้า คําแถลงต่าง ๆ อย่างเช่น "คาดหวัง" "ตั้งใจ" "วางแผน" "คาดการณ์" "เชื่อ" "ประเมิน" และคําที่คล้ายคลึงกันเป็นลักษณะของคําแถลงเกี่ยวกับอนาคต คําแถลงดังกล่าวอ้างอิงตามการประเมินและสมมติฐานปัจจุบันของฝ่ายบริหารของบริษัท Henkel AG & Co. KGaA คําแถลงเหล่านี้ไม่ได้หมายความถึงการรับประกันว่าความคาดหวังเหล่านั้นจะพิสูจน์ได้ว่ามีความถูกต้อง ผลการดําเนินงานในอนาคตและผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นจริงของ Henkel AG & Co. KGaA และบริษัทในเครือขึ้นอยู่กับความเสี่ยงและความไม่แน่นอนหลายประการ และอาจแตกต่างอย่างมีนัยสําคัญ (ทั้งในเชิงบวกและเชิงลบ) จากคําแถลงที่คาดการณ์ล่วงหน้า ปัจจัยหลายประการเหล่านี้อยู่นอกเหนือการควบคุมของ Henkel และไม่สามารถประเมินได้ล่วงหน้าอย่างถูกต้อง เช่น สภาพแวดล้อมทางเศรษฐกิจในอนาคต และการกระทําของคู่แข่งและบุคคลอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องในตลาด Henkel ไม่มีแผนหรือสัญญาว่าจะปรับปรุงคําแถลงการคาดการณ์ล่วงหน้านี้
เอกสารนี้ประกอบด้วยตัวชี้วัดทางการเงินเพิ่มเติมที่ไม่ได้นิยามไว้อย่างชัดเจนในกรอบการรายงานทางการเงินที่เกี่ยวข้อง และเป็นหรืออาจเป็นมาตรการทางเลือกในการวัดผลการดำเนินงาน ผู้อ่านไม่ควรมองว่าตัวชี้วัดทางการเงินเพิ่มเติมเหล่านี้แยกกันหรือเป็นทางเลือกแทนการวัดสินทรัพย์สุทธิและสถานะทางการเงินหรือผลลัพธ์จากการดําเนินงานของ Henkel ตามที่นําเสนอตามกรอบการรายงานทางการเงินที่เกี่ยวข้องในงบแสดงฐานะทางการเงินรวม (Consolidated Financial Statement) บริษัทอื่น ๆ ที่รายงานหรืออธิบายตัวชี้วัดผลการดำเนินงานทางเลือกที่มีชื่อคล้ายคลึงกันอาจมีการคํานวณด้วยวิธีที่แตกต่างกัน
เอกสารฉบับนี้จัดทำขึ้นเพื่อวัตถุประสงค์ในการให้ข้อมูลเท่านั้น และไม่ได้มีจุดมุ่งหมายเพื่อใช้เป็นคำแนะนำในการลงทุน การเสนอขาย หรือการชักชวนให้เสนอซื้อหลักทรัพย์ใด ๆ