เรียนรู้เกี่ยวกับแบรนด์ในสามกลุ่มธุรกิจของเรา ได้แก่ เทคโนโลยีกาว บิวตี้แคร์ และผลิตภัณฑ์ซักล้างและผลิตภัณฑ์ในครัวเรือน
4 มี.ค. 2567 กรุงเทพฯ
เฮงเค็ลเผยแพร่รายงานความยั่งยืนสำหรับปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 โดยมีรายละเอียดความก้าวหน้าในการดำเนินกลยุทธ์ความยั่งยืนระดับโลก โดยเฉพาะอย่างยิ่งในการใช้พลังงานหมุนเวียนและการส่งเสริมเศรษฐกิจหมุนเวียน นอกจากนี้ บริษัทยังคงทํางานอย่างเป็นระบบเพื่อสร้างกลุ่มผลิตภัณฑ์ที่ยั่งยืนยิ่งขึ้น และขยายโครงการความผูกพันธ์ของพนักงานต่อไป
ความยั่งยืนเป็นเสาหลักของวาระการเติบโตอย่างมีเป้าหมายของเรา" Carsten Knobel ซีอีโอของเฮงเค็ลกล่าว "โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงเวลาแห่งความท้าทายเช่นนี้ การดําเนินการอย่างยั่งยืนมีความสำคัญอย่างยิ่งมากกว่าที่เคย ดังนั้นเราจึงดำเนินงานอย่างต่อเนื่องเพื่อนําเป้าหมายด้านความยั่งยืนของเราไปปรับใช้ และผมรู้สึกภาคภูมิใจมากในความก้าวหน้าอย่างดีอีกครั้งที่เราทำตลอดปี พ.ศ. 2566 ผลลัพธ์ระดับยอดเยี่ยมของเราในการประเมิน ESG ภายนอกชั้นนํา เช่น การได้รับรางวัล EcoVadis Platinum เป็นประจำหลายครั้ง แสดงให้เห็นว่าเรากำลังเดินไปในเส้นทางที่ถูกต้องและความคืบหน้าของเราได้รับการยอมรับ"
Sylvie Nicol สมาชิกคณะกรรมการบริหารของเฮงเค็ลที่ดูแลรับผิดชอบด้านทรัพยากรบุคคล โครงสร้างพื้นฐาน และความยั่งยืนกล่าวเสริมว่า "ในปีที่แล้ว เราให้ความสำคัญกับการส่งเสริมความมุ่งมั่นด้านสิ่งแวดล้อมและผลกระทบต่อสังคมของเรา” "ดิฉันอยากจะเน้นย้ำถึงความก้าวหน้าที่โดดเด่นในการจัดหาสินค้าโภคภัณฑ์หลักอย่างยั่งยืน เช่น การรับรองสำหรับน้ำมันปาล์มและเมล็ดในปาล์ม นอกจากนี้ เรายังพยายามอย่างมากในการมีส่วนร่วมกับระบบเศรษฐกิจหมุนเวียนในทั้งสองหน่วยธุรกิจของเรา นอกจากนี้ เรายังคงส่งเสริมความเสมอภาคทางสังคมอย่างต่อเนื่อง และดิฉันอยากเน้นย้ำถึงการดำเนินแนวทางการลาหยุดเพื่อเลี้ยงดูบุตรอย่างเป็นกลางทางเพศสําหรับพนักงานทุกคนทั่วโลกอีกด้วย"
"กรอบความมุ่งมั่นด้านความยั่งยืน 2030+ " กําหนดความมุ่งมั่นและเป้าหมายที่ชัดเจนสําหรับการเดินทางเพื่อความยั่งยืนระดับโลกของเฮงเค็ลที่เกี่ยวข้องกับประเด็นด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาล ในปีที่ผ่านมา บริษัทได้ทําการปรับปรุงด้านสภาพภูมิอากาศอย่างมีนัยสําคัญ และลดการปล่อย CO2 โดยรวมในการผลิตลงร้อยละ 61 ต่อเมตริกตันของผลิตภัณฑ์ (เมื่อเทียบกับปีอ้างอิง พ.ศ. 2553) ขณะเดียวกันก็มีสัดส่วนการจัดหาไฟฟ้าจากแหล่งพลังงานหมุนเวียนเพิ่มขึ้นเป็นร้อยละ 89 โดยรวมแล้ว โรงงานอื่น ๆ อีก 14 แห่งได้เปลี่ยนมาใช้การผลิตแบบเป็นกลางทางคาร์บอนในปี พ.ศ. 2566 จากความคืบหน้าในการลดการปล่อย CO2 จากวัตถุดิบและบรรจุภัณฑ์ลงร้อยละ 17 (ต่อตันของผลิตภัณฑ์เมื่อเทียบกับปีอ้างอิง พ.ศ. 2560) เฮงเค็ลยังได้พัฒนาวิถีการปล่อยก๊าซคาร์บอนสุทธิเป็นศูนย์ให้ครอบคลุมทุกประเภทการปล่อยก๊าซเรือนกระจกอีกด้วย
เป้าหมายสําคัญของเฮงเค็ลคือการส่งเสริมเศรษฐกิจหมุนเวียน โดยรวมแล้ว เฮงเค็ลได้เพิ่มสัดส่วนพลาสติกรีไซเคิลในบรรจุภัณฑ์สินค้าอุปโภคบริโภคขึ้นเป็นร้อยละ 19 ทั่วโลก ตัวอย่างที่โดดเด่นเกี่ยวกับเรื่องนี้คือปริมาณสารรีไซเคิลเพิ่มขึ้นสองเท่าเป็นร้อยละ 50 สําหรับกลุ่มผลิตภัณฑ์น้ำยาซักฟอกอเนกประสงค์ทั้งหมดในยุโรป เช่น Persil
เฮงเค็ลยังคงพยายามอย่างต่อเนื่องเพื่อปกป้องทรัพยากรธรรมชาติอีกด้วย ซึ่งรวมถึงการใช้วัตถุดิบอย่างมีความรับผิดชอบ เช่น น้ำมันปาล์มและน้ำมันเมล็ดในปาล์ม เมื่อสิ้นสุดปี พ.ศ. 2566 บริษัทสามารถตอบสนองความต้องการทั่วโลกได้ถึงร้อยละ 96 ด้วยน้ำมันปาล์ม (เมล็ดในปาล์ม) ที่ผ่านการรับรองความยั่งยืน และมีอัตราความสามารถในการตรวจสอบย้อนกลับสูงถึงร้อยละ 89 เพื่อเป็นการแสดงถึงการให้ความสำคัญเป็นพิเศษกับการช่วยเหลือเกษตรกรรายย่อยสำหรับการผลิตน้ำมันปาล์ม เฮงเค็ลจึงได้จัดการเฉลิมฉลองครบรอบความร่วมมือ 10 ปีกับองค์กรพัฒนา Solidaridad เกษตรกรรายย่อยกว่า 39,000 รายได้รับประโยชน์จากโครงการริเริ่มร่วมกันนี้เรียบร้อยแล้ว ความร่วมมือนี้จะขยายต่อไปผ่านโครงการเฉพาะในปีข้างหน้า รวมถึงในประเทศโคลัมเบียและอินโดนีเซียอีกด้วย
ในด้านความหลากหลาย ความเสมอภาค และการยอมรับความแตกต่าง เฮงเค็ลมีความมุ่งมั่นที่จะบรรลุความเท่าเทียมระหว่างเพศในทุกระดับการจัดการภายในปี พ.ศ. 2568 ในปีที่ผ่านมา สัดส่วนของผู้หญิงในตําแหน่งผู้บริหารเพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 39.5 เพื่อเป็นการแสดงให้เห็นการมีส่วนร่วมในความมุ่งมั่นเพื่อสร้างความเสมอภาคและความเป็นมิตรต่อครอบครัวมากขึ้น เฮงเค็ลจึงได้ดำเนินโครงการการลาหยุดเพื่อเลี้ยงดูบุตรอย่างเป็นกลางทางเพศ นโยบายใหม่นี้ทำให้มั่นใจได้ว่าพนักงานทุกคนทั่วโลกจะได้รับการลาหยุดเพื่อเลี้ยงดูบุตรโดยได้รับค่าจ้างเต็มจำนวนเป็นเวลา 8 สัปดาห์ โดยพิจารณาจากบทบาทของผู้ให้การดูแลบุตร
ในปีที่ผ่านมา เฮงเค็ลยังคงพยายามอย่างต่อเนื่องเพื่อเปลี่ยนผ่านกลุ่มผลิตภัณฑ์อย่างยั่งยืน ตัวอย่างหนึ่งคือโครงการจากหน่วยธุรกิจเทคโนโลยีสารยึดติด หน่วยงานได้พัฒนาวิธีการประเมินภายในเพิ่มเติมเพื่อสร้างความโปร่งใสเพิ่มเติมเกี่ยวกับผลการดำเนินงานด้านความยั่งยืนของกลุ่มผลิตภัณฑ์ของตน ผลการประเมินมีส่วนช่วยในการจัดการกลุ่มผลิตภัณฑ์และสนับสนุนการเปลี่ยนไปสู่โซลูชันใหม่ที่ช่วยลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกและเศรษฐกิจหมุนเวียน
ในปี พ.ศ. 2566 นั้น เฮงเค็ลได้เปิดตัวโครงการริเริ่ม 'It starts with us' ภายในหน่วยธุรกิจคอนซูเมอร์แบรนด์ วัตถุประสงค์คือการสนับสนุนให้ผู้บริโภคใช้ผลิตภัณฑ์อย่างประหยัดทรัพยากรมากขึ้นด้วยเคล็ดลับด้านพฤติกรรมที่ตรงไปตรงมาในชีวิตประจําวัน เช่น การใช้โปรแกรม ECO ในเครื่องซักผ้า
เช่นเดียวกับปีก่อนหน้า ผลการดําเนินงานด้านความยั่งยืนของเฮงเค็ลในปี พ.ศ. 2566 ได้รับการยอมรับจากหน่วยงานจัดอันดับหลายแห่ง รวมถึง EcoVadis โดยวางตำแหน่งเฮงเค็ลไว้ใน 1 เปอร์เซ็นต์แรกของบริษัทที่ได้รับการประเมินและ Sustainalytics
ในฐานะที่เฮงเค็ลเป็นส่วนหนึ่งของโครงการ "Sustainability at Heart" ซึ่งมีการเปิดตัวทั่วโลกในปี 2565 บริษัทตั้งเป้าที่จะส่งเสริมความมุ่งมั่นของพนักงานในเรื่องความยั่งยืน และได้เพิ่มทางเลือกในการฝึกอบรมในปี พ.ศ. 2566 พนักงานมากกว่า 10,000 คนได้เข้าร่วมการฝึกอบรมขั้นพื้นฐานเรียบร้อยแล้ว ซึ่งมีให้บริการในรูปแบบ e-learning ในหลายภาษา และในรูปแบบที่พัฒนาขึ้นใหม่สำหรับพนักงานฝ่ายผลิต นอกจากนี้ยังมีหลักสูตรการฝึกอบรมเชิงลึก ตลอดจนห้องปฏิบัติการบ่มเพาะเพื่อความยั่งยืนแห่งใหม่ ซึ่งเป็นรูปแบบที่ช่วยให้พนักงานมีโอกาสทํางานกับแนวคิดด้านความยั่งยืนของตนเอง