ด้วยการพัฒนาทางเทคโนโลยีและความสามารถในการเชื่อมต่อแบบดิจิทัลจากทุกที่ทุกเวลา สถานที่ทำงานหลายแห่งกำลังเปลี่ยนไปสู่การทำงานจากที่บ้านเป็นทางเลือกที่ทำได้ เทรนด์นี้กำลังมาแรงอย่างไม่ต้องสงสัยอันเนื่องมาจากการระบาดใหญ่ของ Covid-19 ทั่วโลกรวมถึงในประเทศไทยด้วย
24 มิ.ย. 2564
10 เคล็ดลับในการทำงานที่บ้าน – เฮงเค็ล
นายแอนเดรียนโต้ จายาเปอร์นา ประธาน บริษัทเฮงเค็ล ประเทศไทย กล่าวว่า "การแพร่ระบาดครั้งใหญ่ที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องได้พิสูจน์ให้เห็นว่าการทำงานจากที่บ้านไม่ได้เป็นเพียงทางเลือกที่ดีของการจัดการการทำงานที่ยืดหยุ่นเท่านั้น แต่ยังจำเป็นสำหรับการช่วยให้พนักงานมีความสมดุลระหว่างการทำงานและการใช้ชีวิต"
นายแอนเดรียนโต้ได้แบ่งปันเคล็ดลับ 10 ข้อจากเฮงเค็ลเกี่ยวกับวิธีการทำงานจากที่บ้านอย่างมีประสิทธิภาพและประสิทธิผล
1. กำหนดพื้นที่ในการทำงาน
ซึ่งอาจเป็นห้องแยกหรือมุมในบ้านก็ได้ ต้องเป็นสถานที่ที่คุณสามารถมีสมาธิในการทำงาน และคุณอาจเคลื่อนย้ายไปรอบๆ หากคุณเริ่มรู้สึกไม่สะดวกสบายในจุดเดียว เช่นเดียวกันกับการเคลื่อนไหวในสถานที่ทำงาน
2. จัดวางอย่างเหมาะสม
ซึ่งหมายรวมถึงการตรวจสอบให้แน่ใจว่าพื้นที่ทำงานมีความเป็นระเบียบเรียบร้อย มีแสงสว่างเพียงพอ มีความเสถียรในการเชื่อมต่อสัญญาณ wi-fi และมีการยศาสตร์ที่เหมาะสมต่อสุขภาพ ในส่วนของดวงตา คอ และ กระดูกสันหลัง เป็นต้น
บางทีคุณอาจต้องการวางดอกไม้หรือต้นไม้ใกล้โต๊ะทำงานของคุณด้วย สิ่งสำคัญอีกประการหนึ่งคือเสียงรบกวน โดยปกติเสียงที่บ้านจะแตกต่างไปจากที่คุณได้ยินในออฟฟิศอย่างสิ้นเชิง เพื่อที่จะมีสมาธิ คุณอาจฟังเพลงหรือแม้แต่เปิดเพลย์ลิสต์เสียงดนตรี โดยทั่วไป ไม่มีคำว่าถูกหรือผิดในการจัดพื้นที่ทำงาน คุณเพียงแค่ต้องค้นหาการจัดวางที่เหมาะสมเพื่อให้คุณอยู่ในโซนที่คุณรู้สึกสบายใจและสามารถมีสมาธิได้
3. ทำกิจวัตรประจำวันในช่วงเช้าตามปกติ
เตรียมตัวให้พร้อมสำหรับการทำงานที่บ้าน เช่นเดียวกับที่คุณทำในออฟฟิศ ไม่ว่าจะเป็นการสวมใส่เสื้อผ้าที่เหมาะสม ดื่มกาแฟสักแก้ว หรือรับประทานอาหารเช้า สิ่งเหล่านี้จะช่วยเริ่มต้นวันใหม่และเปลี่ยนจากโหมดผ่อนคลายที่บ้านเป็นโหมดการทำงานที่มีประสิทธิภาพ
4. จัดตารางเวลาให้เหมาะสมในแต่ละวัน
การทำงานจากที่บ้านหมายความว่าคุณต้องจัดโครงสร้างของวันอย่างชัดเจน การลงรายการงานของคุณในแต่ละวันหรือสัปดาห์ และการกำหนดเวลาสำหรับงานแต่ละชิ้นก็สามารถเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานและทำให้คุณมีสมาธิจดจ่อ การตั้งเวลายังช่วยไม่ให้ทำงานหนักเกินไปหรือผัดวันประกันพรุ่ง
5. วางแผนการทำงานของคุณให้ตรงกับช่วงเวลาที่คุณรู้สึกว่ามีประสิทธิผลมากที่สุด
ในระหว่างวัน อาจมีบางช่วงที่คุณรู้สึกว่ามีประสิทธิผลมากกว่าในช่วงอื่นๆ เช่น หากคุณทำงานได้ดีในตอนเช้า ให้วางแผนงานที่ยากขึ้นสำหรับช่วงเช้า และเก็บงานที่เป็นลักษณะของงานที่ทำประจำไว้สำหรับช่วงบ่าย เป็นต้น
6. สื่อสารอย่างมีประสิทธิภาพกับเพื่อนร่วมงาน
เมื่อเขียนอีเมลและข้อความโต้ตอบแบบทันที สิ่งสำคัญคือต้องมีความชัดเจนมากที่สุดเกี่ยวกับสิ่งที่คุณได้ทำไปแล้ว สิ่งที่คุณต้องทำ หรือสิ่งที่คุณต้องการให้ผู้ติดต่อของคุณทำ นี่เป็นโอกาสที่ดีในการใช้เทคโนโลยีเพื่อประโยชน์ของคุณ เช่น การโทรแบบดิจิทัลและพื้นที่ทำงานดิจิทัล เช่น Microsoft Teams และ SharePoint ในบางครั้ง การเปิดกล้องของคุณและเห็นอีกฝ่ายอยู่ในสายจะช่วยสร้างความไว้วางใจและกระชับความสัมพันธ์ให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น
7. ทานอาหารว่างเพื่อสุขภาพ
เมื่อคุณทำงานจากที่บ้าน วิธีที่คุณเลือกทานของว่างมีผลกระทบอย่างมากต่อวิธีการทำงานของคุณ อาหารที่มีน้ำตาลสูงอาจให้พลังงานแก่คุณมากในคราวเดียว แต่หลังจากนั้นไม่นาน คุณจะรู้สึกเฉื่อยชา เพียงหาผลไม้สักชิ้นหรือถั่วสักกำมือ จะช่วยรักษาระดับพลังงานให้อยู่ในระดับสูงไว้ได้ตลอดทั้งวัน
8. หยุดพักสั้นๆ ระหว่างวัน
เช่นเดียวกับในออฟฟิศ การลุกขึ้นเดินไปรอบๆ เป็นสิ่งสำคัญ การดื่มกาแฟอีกสักแก้วหรือเพียงแค่ใช้เวลาไม่กี่นาทีในการยืดกล้ามเนื้อ จะช่วยรีเซ็ตสมองของคุณ เพื่อให้คุณมีสมาธิกับงานต่อไปได้ดียิ่งขึ้น
9. กำหนดเวลาสิ้นสุดการทำงาน
เมื่อคุณทำงานจากที่บ้าน การจัดการเวลามีความยืดหยุ่นมาก อย่างไรก็ตาม นั่นอาจหมายถึงการทำงานมากกว่าที่ควรจะเป็น สิ่งสำคัญคือต้องมีกำหนดเวลาที่คุณหยุดทำงานในวันนั้นและใช้เวลาว่างเพื่อพักผ่อนหย่อนใจ
10. สำคัญที่สุด: อย่ากดดันตัวเอง
หากคุณพบว่าคุณไม่ได้มีประสิทธิภาพในการทำงานที่บ้านเหมือนในออฟฟิศ ไม่เป็นไรเลย! คุณอาจต้องใช้เวลาในการปรับตัวให้เข้ากับสถานการณ์ใหม่นี้และค้นหาจังหวะการทำงานของคุณอีกครั้ง ดังนั้นอย่ากดดันตัวเองหากทุกอย่างไม่เป็นไปตามแผนในทันที
