เรียนรู้เกี่ยวกับแบรนด์ในสามกลุ่มธุรกิจของเรา ได้แก่ เทคโนโลยีกาว บิวตี้แคร์ และผลิตภัณฑ์ซักล้างและผลิตภัณฑ์ในครัวเรือน
5 มี.ค. 2563 ดุสเซลดอล์ฟ เยอรมนี
วันนี้ เฮงเค็ลได้เผยแพร่รายงานความยั่งยืนครั้งที่ 29 โดยให้รายละเอียดเกี่ยวกับผลการดำเนินงานและความคืบหน้าในทุกมิติด้านความยั่งยืน ในขณะเดียวกันเฮงเค็ลก็นำเสนอกรอบกลยุทธ์สำหรับอนาคตและกำหนดเป้าหมายใหม่ที่สำคัญๆ เช่นเรื่องของบรรจุภัณฑ์ที่ยั่งยืนและการปกป้องสภาพภูมิอากาศ
“ความมุ่งมั่นด้านการพัฒนาอย่างยั่งยืนนั้นเป็นส่วนหนึ่งของวัฒนธรรมองค์กรของเรามานานหลายทศวรรษ ในขณะที่เรากำลังทำงานด้วยความมุ่งมั่นเพื่อที่จะผลักดันให้ทันกับเป้าหมายที่เรากำหนดไว้สำหรับปี2563 เราก็ยกระดับความมุ่งหมายของเราสู่อนาคตด้วยการมีส่วนร่วมอย่างแข็งขันในการปกป้องสภาพภูมิอากาศ เศรษฐกิจหมุนเวียนและความก้าวหน้าทางสังคม การพัฒนาอย่างยั่งยืนจะถูกฝังแน่นในกรอบยุทธศาสตร์ใหม่ของเรา เป็นหนึ่งในสิ่งที่จะขับเคลื่อนขีดความสามารถในการการแข่งขัน” คาร์สเทน นอร์เบล ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของบริษัท เฮงเค็ลกล่าว
“ในอีกห้าปีข้างหน้าจะเป็นตัวตัดสินทั้งในระดับโลกและสำหรับเราในฐานะบริษัท เราต้องแน่ใจว่าเราอยู่ในเส้นทางที่ถูกต้องในการลดภาวะโลกร้อนและส่งมอบตามเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนของสหประชาชาติ” ซิลวี นิโคล สมาชิกคณะกรรมการบริหารของเฮงเค็ลผู้รับผิดชอบด้านทรัพยากรบุคคลและการพัฒนาอย่างยั่งยืนกล่าว
ภายในปี 2573 เฮงเค็ลมีจุดมุ่งหมายที่จะเพิ่มประสิทธิภาพของการดำเนินกิจกรรมทางธุรกิจมากขึ้นสามเท่า เมื่อเทียบกับผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมในปีฐาน 2553 นี่เป็นรากฐานที่สำคัญของกลยุทธ์การพัฒนาอย่างยั่งยืนของเฮงเค็ล ปลายปี 2562 ที่ผ่านมา เฮงเค็ลสามารถเพิ่มประสิทธิภาพได้ถึงร้อยละ 56 (เมื่อเทียบกับปี 2553 )
เฮงเค็ลประสบความสำเร็จแล้วสามเรื่องในปี 2563 โดยถึงเป้าหมายก่อนกำหนดเวลา: ในเรื่องของการปล่อยก๊าซเรือนกระจกลดลงร้อยละ 31 และลดปริมาณการปล่อยของเสียของสินค้าต่อตันได้ร้อยละ 40 ปรับปรุงในด้านอาชีวอนามัยและความปลอดภัยได้ร้อยละ 42, เฮงเค็ลประสบความสำเร็จเกินเป้าหมายแล้วสำหรับปี 2563 และสำหรับปริมาณการใช้น้ำต่อสินค้าหนึ่งตัน ก็ลดลงไปร้อยละ 28 เทียบกับปี 2553 ซึ่งหมายความว่าเป้าหมายที่จะลดให้ได้ถึงร้อยละ 30 นั้นก็ไม่ไกลเกินเอื้อม
ในมุมมองของความต้องการที่จะลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์เพื่อที่จะลดภาวะโลกร้อนนั้น เฮงเค็ลได้วางวิสัยทัศน์ระยะยาวโดยจะเป็นบริษัทที่มีสภาพภูมิอากาศในเชิงบวกและสร้างความคืบหน้าในส่วนที่เกี่ยวข้องของห่วงโซ่คุณค่า
“ด้วยวิสัยทัศน์ของเราต้องการเป็นบริษัทที่มีสภาพภูมิอากาศเชิงบวกภายในปี 2583 เราได้ดำเนินการข้ามไปอีกหนึ่งขั้นแล้วในการสร้างสมดุลทางคาร์บอนและแสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของเฮงเค็ลที่จะเป็นผู้นำในการพัฒนาอย่างยั่งยืน เราต้องการผลักดันให้เกิดความก้าวหน้าในการดำเนินงานของเราและทำงานร่วมกับคู่ค้าของเราตลอดห่วงโซ่คุณค่าเพื่อร่วมกันปกป้องโลกของเรา” ซิลวี นิโคลอธิบาย
ในการที่จะเป็นบริษัทที่มีสภาพภูมิอากาศในเชิงบวกภายในปี 2583 นั้น บริษัทมีแผนที่จะลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ของการผลิตลงร้อยละ 65 ภายในปี 2568 เฮงเค็ลตั้งใจที่จะบรรลุเป้าหมายนี้โดยการพัฒนาและปรับปรุงประสิทธิภาพการใช้พลังงานอย่างต่อเนื่อง โดยใช้ไฟฟ้าจากแหล่งพลังงานทดแทน ภายในปี 2583 บริษัทเฮงเค็ลมีจุดมุ่งหมายที่จะแปลงเชื้อเพลิงฟอสซิลที่เหลือทั้งหมดจากการผลิตมาใช้เป็นทางเลือกในการสร้างสมดุลทางสภาพภูมิอากาศที่เป็นกลางและเป็นผู้ส่งต่อพลังงานที่มีสมดุลคาร์บอนนี้ให้กับผู้อื่นต่อไป
นอกจากนี้ เฮงเค็ลยังต้องการที่จะยกระดับของแบรนด์และเทคโนโลยีเพื่อช่วยให้ลูกค้า ผู้บริโภคและซัพพลายเออร์สามารถลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ลง 100 ล้านตันภายในสิบปี จนถึงปี 2568
สำหรับความคืบหน้าและกิจกรรมด้านบรรจุภัณฑ์แบบยั่งยืนเพื่อส่งเสริมเศรษฐกิจหมุนเวียนนั้น เฮงเค็ลเพิ่มความมุ่งมั่น เสริมความแข็งแกร่งด้วยการตั้งเป้าหมายใหม่ด้านบรรจุภัณฑ์แบบยั่งยืนที่ท้าทายมากขึ้นไปอีกสำหรับปี 2568 ดังนี้
ในปลายปี 2562นั้น บรรจุภัณฑ์ของเฮงเค็ลร้อยละ 85 สามารถนำไปรีไซเคิลหรือนำกลับมาใช้ใหม่ได้ ส่วนแบ่งของพลาสติกรีไซเคิลในบรรจุภัณฑ์สินค้าอุปโภคบริโภคของเฮงเค็ลในยุโรปอยู่ที่ร้อยละ 12
การมีส่วนร่วมในความก้าวหน้าทางสังคมเป็นหนึ่งในหกของกลยุทธ์การพัฒนาอย่างยั่งยืนของเฮงเค็ล เฮงเค็ลต้องการที่จะส่งเสริมให้เกิดผลกระทบทางสังคมเชิงบวกต่อชุมชนในปี 2568 ผ่านการจัดหาวัตถุดิบอย่างมีความรับผิดชอบ 100 % ด้วยความร่วมมือจากพนักงานของบริษัทกว่า 50,000 คน ที่ล้วนได้รับการฝึกฝนให้เป็นทูตด้านการพัฒนาอย่างยั่งยืน และช่วยพัฒนาคุณภาพชีวิตของผู้คนกว่า 20 ล้านชีวิตทั่วโลก
เฮงเค็ลมีการเจรจากับซัพพลายเออร์ทั้งหมดในอันที่จะส่งเสริมแนวทางการปฏิบัติอย่างยั่งยืนและเคารพสิทธิมนุษยชนตลอดทั้งห่วงโซ่คุณค่า องค์ประกอบที่สำคัญของกลยุทธ์ในการจัดหาวัตถุดิบอย่างรับผิดชอบของเฮงเค็ลคือกระบวนการหกขั้นตอนในกระบวนการจัดหาที่มีไว้ประเมินประสิทธิภาพของซัพพลายเออร์ในด้านความยั่งยืน ซึ่งถูกกำหนดไว้ในขั้นตอนกระบวนการจัดซื้อของ บริษัท ในปี 2562 นั้น บริษัทสามารถครอบคลุมปริมาณการจัดซื้อที่เกี่ยวข้องกับด้านบรรจุภัณฑ์ วัตถุดิบและการผลิตตามสัญญาได้ถึงร้อยละ 86
ตัวอย่างที่ชัดเจนที่แสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของเฮงเค็ลในด้านความรับผิดชอบในการจัดหาวัตถุดิบคือ การร่วมมือกันเพื่อการพัฒนาอย่างยั่งยืน – ความริเริ่มด้านเคมีเพื่อให้เกิดห่วงโซ่คุณค่าที่ยั่งยืน (Together for Sustainability – The Chemical Initiative for Sustainable Supply Chains: TfS), ซึ่งร่วมก่อตั้งโดย บริษัทเฮงเค็ลในปี 2554 ในความริเริ่มนั้น มี พันธมิตรทั้งหมด 23 ราย จากอุตสาหกรรมเคมีทั้งหมดร่วมมือกันเพื่อให้เกิดกระบวนการการจัดการภายในห่วงโซ่อุปทานที่ซับซ้อนมากขึ้นให้มีการพัฒนาอย่างยั่งยืน องค์ประกอบหลักของความคิดริเริ่ม TFS ก็คือเรื่องของการตรวจสอบและประเมินผลออนไลน์ที่ดำเนินการโดยบริษัทตรวจสอบอิสระที่คัดเลือกมา และ EcoVadis ผู้ให้บริการที่มีความเชี่ยวชาญในการวิเคราะห์การพัฒนาอย่างยั่งยืน
“ที่เฮงเค็ล เราต้องการที่จะยึดมั่นในแนวทางด้านการพัฒนาอย่างยั่งยืนไว้ในทุกกิจกรรมของเราและให้แน่ใจว่ามันเป็นเสากลางในกลยุทธ์ด้านนวัตกรรมของทุกหน่วยธุรกิจ สิ่งนี้จะช่วยทำให้บริษัทเฮงเค็ลสามารถใช้ทรัพยากรได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้นและเสริมสร้างความสามารถในการแข่งขันของเรา” คาร์สเทน โนเบล กล่าว
ตัวอย่างเช่น ผู้บริโภคในธุรกิจผลิตภัณฑ์บิวตี้แคร์ และธุรกิจผลิตภัณ์ซักล้างและผลิตภัณฑ์ในครัวเรือน จะได้ใช้ผลิตภัณฑ์ที่ให้ความสำคัญในการใช้โซลูชั่นด้านบรรจุภัณฑ์เพื่อความยั่งยืนผ่านทางแบรนด์ที่นำเสนอออกมาตามวัตถุประสงค์นี้ เทคโนโลยีกาวก็เช่นกันจะช่วยยกระดับศักยภาพผ่านผลิตภัณฑ์และเทคโนโลยีที่ทำให้เกิดโซลูชั่นสำหรับอุตสาหกรรมที่ล้ำยุค
สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมด้านการพัฒนาอย่างยั่งยืนของเฮงเค็ล ประสิทธิภาพการทำงานและความคืบหน้า สามารถเข้าชมได้ที่ henkel.co.th/sustainability
* ไม่รวมถึงผลิตภัณฑ์กาวซึ่งมีสารประกอบบางอย่างอันอาจส่งผลกระทบต่อการนับนำมาใช้ใหม่หรืออาจทำให้วงจรของการรีไซเคิลต้องเสียไป
รายงานผลการพัฒนาความยั่งยืน ประจำปี 2562
ข้อมูลเพิ่มเติม