เรียนรู้เกี่ยวกับแบรนด์ในสามกลุ่มธุรกิจของเรา ได้แก่ เทคโนโลยีกาว บิวตี้แคร์ และผลิตภัณฑ์ซักล้างและผลิตภัณฑ์ในครัวเรือน
5 มี.ค. 2563 ดุสเซลดอล์ฟ เยอรมนี
เมื่อเร็วๆ นี้ เฮงเค็ล ได้เปิดตัวกรอบกลยุทธ์ใหม่สำหรับอนาคต ให้กับนักลงทุน นักวิเคราะห์ และสื่อมวลชนได้รับรู้โดยทั่วกัน
“ที่เฮงเค็ล เรากำลังสร้างพื้นฐานที่แข็งแกร่งสำหรับอนาคต ด้วยแบรนด์ที่แข็งแกร่งและเทคโนโลยีที่เป็นนวัตกรรมใหม่ ธุรกิจที่ดึงดูดใจโดยมีตำแหน่งผู้นำทางการตลาดชั้นนำมากมายทั่วโลก ทีมงานที่มีความมุ่งมั่นทุ่มเทอย่างมาก รวมถึงงบการเงินระดับยอดเยี่ยมที่มีความสามารถอย่างสูงในการสร้างกระแสเงินสด แต่อย่างไรก็ตาม ผลการดำเนินงานของเรายังคงต่ำกว่าความคาดหมายของเราและความคาดหวังของผู้ถือหุ้นด้วย เรารู้ว่าในการก้าวไปข้างหน้า เราจะทำได้ดีกว่านี้ยิ่งๆ ขึ้นไป” คาร์สเทน โนเบล ประธานกรรมการบริหาร บริษัทเฮงเค็ล กล่าว
“จากการวิเคราะห์อย่างถ้วนถี่ถึงจุดแข็งที่เรามีและความจำเป็นที่จะต้องเปลี่ยนแปลง เราได้พัฒนากรอบกลยุทธ์ใหม่สำหรับบริษัทของเรา กรอบนี้จะช่วยให้เฮงเค็ลเอาชนะในรอบปี 20 นี้ ด้วยโฟกัสที่ชัดเจนในการที่จะเติบโตอย่างมีเป้าหมาย โดยการสร้างคุณค่าที่เหนือกว่าให้กับผู้บริโภคและลูกค้า และตอกย้ำความเป็นผู้นำของเราในเรื่องของความยั่งยืนและทำให้พนักงานของเราเติบโตขึ้นอย่างมืออาชีพจากการทำงานกับเฮงเค็ล”
“ ในอนาคต กรอบกลยุทธ์ใหม่ของเราสำหรับการเติบโตอย่างมีจุดมุ่งหมายจะผลักดันการพัฒนาที่ประสบความสำเร็จของเฮงเค็ลในอนาคตและจะพัฒนาไปตามกาลเวลา องค์ประกอบหลักของกรอบการทำงานนี้คือผลงานที่ชนะเลิศ ความสามารถในการแข่งขันในด้านนวัตกรรม ความยั่งยืนและดิจิทัล รวมถึงรูปแบบการดำเนินงานในอนาคตพร้อมด้วยรากฐานที่แข็งแกร่งของวัฒนธรรมการทำงานร่วมกันและการให้อำนาจแก่บุคลากร ความมุ่งมั่นของเราต่อการเติบโตอย่างมีจุดมุ่งหมายสะท้อนให้เห็นในเป้าหมายที่ท้าทายทางการเงินในระยะกลางถึงระยะยาวของเรา” คาร์สเทน โนเบลกล่าวสรุป
องค์ประกอบสำคัญของทิศทางในอนาคต คือ การจัดการพอร์ตโฟลิโอที่ใช้งานอยู่ เฮงเค็ล มีแบรนด์และประเภทธุรกิจที่มียอดขายรวมทั้งสิ้น มากกว่าหนึ่งพันล้านยูโร โดยส่วนใหญ่อยู่ในธุรกิจผู้บริโภค ซึ่งประมาณ 50 เปอร์เซ็นต์ถูกทำเครื่องหมายว่าจะขายหรือเลิกกิจการภายในปี 2564
นอกจากนี้ การควบรวมกิจการ จะยังคงเป็นส่วนสำคัญของกลยุทธ์ของเฮงเค็ล หลักเกณฑ์สำคัญสำหรับการเข้าซื้อกิจการคือความพร้อม กลยุทธ์ที่เหมาะสม และการเงินที่น่าดึงดูดใจของเป้าหมายที่มีศักยภาพ เฮงเค็ล จะใช้งบการเงินที่แข็งแกร่งเพื่อติดตามการซื้อกิจการที่จะส่งผลกระทบสูง ในขณะที่ เฮงเค็ล มีเป้าหมายที่จะขยายความเป็นผู้นำด้านเทคโนโลยีกาวด้วยการเข้าซื้อกิจการ บริษัทฯ ก็จะมุ่งความสนใจไปที่ธุรกิจผู้บริโภคในตลาดประเทศชั้นนำในหมวดหมู่ธุรกิจ "สีขาว" (ตลาดที่มีโอกาสเติบโตทางธุรกิจโดยที่การแข่งขันยังไม่สูง) และโมเดลธุรกิจใหม่ๆ อีกด้วย
เพื่อเสริมความแข็งแกร่งให้กับการแข่งขัน เฮงเค็ล จะมุ่งเน้นไปที่การเร่งสร้างนวัตกรรมที่ให้ผลกระทบ เพิ่มความยั่งยืนเป็นปัจจัยที่แตกต่าง และเปลี่ยนผ่านระบบดิจิทัลไปสู่การสร้างคุณค่าเพื่อลูกค้าและผู้บริโภค
เฮงเค็ล มีเป้าหมายเพื่อเร่งสร้างนวัตกรรมที่ส่งผลกระทบต่อทั้งสามหน่วยธุรกิจ โดยได้รับการสนับสนุนจากการลงทุนที่เพิ่มขึ้นซึ่งจะรวมถึงการเพิ่มระดับการเข้าถึงนวัตกรรม ตัวอย่าง เช่น การขยายการใช้เครื่องมือดิจิทัลเพื่อความรวดเร็วและดีกว่าของข้อมูลเชิงลึก ขณะที่เฮงเค็ลจะผลักดันการตัดสินใจทางธุรกิจทั่วทั้งองค์กรให้มีความใกล้เคียงกับตลาดมากขึ้นและยกระดับศักยภาพของนวัตกรรมแบบเปิดและการระดมความคิด เฮงเค็ลยังจะปรับวิธีการที่คล่องตัวและยังคงลงทุนในศูนย์บ่มเพาะและศูนย์นวัตกรรมอีกด้วย สิ่งนี้จะช่วยให้เกิดการพัฒนานวัตกรรมที่ส่งผลกระทบต่อทั้งสามหน่วยธุรกิจ
นวัตกรรมและแบรนด์จะได้รับการสนับสนุนด้วยการลงทุนอย่างต่อเนื่องในหมวดหมู่ธุรกิจหลักและทุกภูมิภาคดังนั้น เฮงเค็ล จึงมุ่งมั่นที่จะเพิ่มการลงทุนด้านการโฆษณาดิจิทัลและไอที 350 ล้านยูโร เมื่อเทียบกับปี 2561
เพื่อเป็นการสร้างผลงานที่แข็งแกร่งและก้าวหน้าไปสู่เป้าหมายในปี 2563 และปีต่อ ๆ ไป เฮงเค็ล มีเป้าหมายที่จะเสริมสร้างความยั่งยืนในฐานะผู้สร้างความแตกต่างในการแข่งขัน บริษัทได้วางทิศทางสำหรับอนาคตไว้ 3 ประการสำคัญ ที่เกี่ยวข้องกับผู้บริโภคเป็นอย่างมาก ได้แก่ ลูกค้า คู่ค้าและสังคมโดยส่วนรวม ในความพยายามที่จะสร้างสภาวะสภาพภูมิอากาศที่ดีขึ้นภายในปี 2583 บริษัทฯ ได้วางแผนที่จะลดปริมาณการใช้ทรัพยากรในการผลิตลงร้อยละ 65 และลดปริมาณการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ 100 ล้านตัน ร่วมกับผู้บริโภค ลูกค้าและซัพพลายเออร์ ภายในปี 2568 และในการทำงานเพื่อให้เกิดเศรษฐกิจหมุนเวียนและกำจัดขยะพลาสติกในสภาพแวดล้อมเป็นศูนย์นั้น เฮงเค็ล ได้กำหนดเป้าหมายบรรจุภัณฑ์สำหรับปี 2568 ไว้ว่า 100 เปอร์เซ็นต์ของบรรจุภัณฑ์ของเฮงเค็ล* จะต้องถูกนำไปรีไซเคิลหรือนำกลับมาใช้ใหม่ได้ และบริษัทฯ มีเป้าหมายที่จะลดซากพลาสติกบริสุทธิ์ในบรรจุภัณฑ์ลงร้อยละ 50
เฮงเค็ล ยังต้องการที่จะสร้างผลกระทบในเชิงบวกทางสังคมต่อชุมชนผ่านความรับผิดชอบในการจัดหาวัตถุดิบ100% โดย ใช้ประโยชน์จากพนักงานที่เข้าร่วมมากกว่า 50,000 คน และด้วยการช่วยเหลือปรับปรุงคุณภาพชีวิตของ 20 ล้านคนทั่วโลกภายในปี 2568
การพัฒนาอย่างยั่งยืนจะโยงใยไปในทุกกิจกรรม โดยการสร้างความยั่งยืนให้เป็นเสาหลักในกลยุทธ์ด้านนวัตกรรมของผู้บริโภคของธุรกิจบิวตี้แคร์ และธุรกิจผลิตภัณฑ์ซักล้างและผลิตภัณฑ์ในครัวเรือน จะมีความก้าวหน้าในพอร์ตผลิตภัณฑ์ของหน่วยธุรกิจ โดยจะมุ่งเน้นเฉพาะในเรื่องของโซลูชั่นด้านบรรจุภัณฑ์ที่ยั่งยืนและการขยายแบรนด์ต่อไปอย่างมีเป้าหมาย เทคโนโลยีกาวจะยังคงใช้ประโยชน์จากศักยภาพของตัวเองผ่านผลิตภัณฑ์และเทคโนโลยีที่มีส่วนช่วยกำหนดมาตรฐานอุตสาหกรรม
ในอนาคต เฮงเค็ล มีเป้าหมายที่จะปรับเปลี่ยนระบบดิจิทัลไปสู่การสร้างคุณค่าเพื่อลูกค้าและผู้บริโภค บริษัทฯ ต้องการส่งเสริมการขายแบบดิจิทัลแบบหนึ่งต่อหนึ่งในธุรกิจผู้บริโภคโดยการขยายฐานที่มีอยู่แล้วและสร้างแพลตฟอร์มดิจิทัลใหม่เพื่อสร้างความสัมพันธ์โดยตรงกับผู้บริโภค การทำให้เป็นระบบดิจิทัลทั้งกระบวนการที่เน้นลูกค้าเป็นศูนย์กลางในธุรกิจอุตสาหกรรมแบบครบวงจร จะขับเคลื่อนเพื่อสร้างธุรกิจใหม่และเพื่อสร้างประสบการณ์ของลูกค้าดิจิทัลในทุกจุดสัมผัส
นอกจากนี้ เฮงเค็ล จะดำเนินการรวมข้อมูลแบบครบวงจรต่อไป สิ่งนี้จะช่วยให้บริษัทสามารถพัฒนาโซลูชันที่เป็นนวัตกรรมและปรับแต่งได้จาก AI รวมทั้งนวตกรรมที่ออกแบบและพัฒนาเพื่อการใช้งานเฉพาะแบบ เฮงเค็ล จะลงทุนในบุคลากรดิจิทัลโดยเฉพาะนักวิทยาศาสตร์ด้านข้อมูล และวิศวกรที่มีความสามารถในอนาคตและความเชี่ยวชาญในอุตสาหกรรมเทคโนโลยีขั้นสูง
และในที่สุด เฮงเค็ล ต้องการมุ่งเน้นการใช้งานและประสิทธิภาพของธุรกิจดิจิทัล เฮงเค็ล จะจัดโครงสร้างการตั้งค่าดิจิทัลใหม่อย่างสมบูรณ์โดยสร้างโครงสร้างดิจิทัลใหม่ที่เรียกว่า "ธุรกิจดิจิทัล" เฮงเค็ล ก่อตั้งตำแหน่ง CDIO (ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายดิจิทัลและสารสนเทศ) ขึ้นเมื่อปลายปีที่แล้ว ทีมดิจิทัลและไอทีทั่วเฮงเค็ล จะรวมกันภายใต้การนำของ CDIO ซึ่งจะรายงานตรงต่อซีอีโอ
“ธุรกิจดิจิทัล” ใหม่ของเฮงเค็ลสร้างขึ้นจากสองเสาหลัก: อันดับแรก คือ “เทคโนโลยีธุรกิจ” ซึ่งเป็นพาหนะขับเคลื่อนประสิทธิภาพในห่วงโซ่คุณค่าผ่านกระบวนการทางธุรกิจและระบบไอทีที่ปรับให้เหมาะสมอย่างต่อเนื่อง เสาหลักที่ 2 คือ “เฮงเค็ลดิจิทัล” ซึ่งเป็นหน่วยงานใหม่สำหรับบ่มเพาะเชิงนวัตกรรมและตลาด ภายใต้หลังคานี้ เฮงเค็ล วางแผนที่จะสร้างศูนย์นวัตกรรมดิจิทัลในกรุงเบอร์ลิน เมืองที่เป็นหัวใจของบริษัทในด้านเทคโนโลยีระดับสูง และในเอเชีย
เฮงเค็ล พยายามที่จะเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันทั้งในเชิงกระบวนการและเชิงโครงสร้างอย่างต่อเนื่อง บริษัทฯ มุ่งที่จะเพิ่มความพยายามในการทำให้ธุรกิจรูปแบบใหม่ สร้างความใกล้ชิดกับลูกค้าและผู้บริโภคได้ดียิ่งขึ้น ด้วยการตัดสินใจให้รวดเร็วขึ้นและปรับปรุงประสิทธิภาพให้ดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง
วัฒนธรรมที่แข็งแกร่ง ค่านิยมที่ใช้ร่วมกัน และกรอบการทำงานที่ชัดเจนในการร่วมมือกันทำงานเป็นทีมนั้น เป็นกุญแจสำคัญสู่ความสำเร็จในอนาคตของเฮงเค็ล โดยขั้นตอนแรก เฮงเค็ล เปิดตัวความมุ่งมั่นในการเป็นผู้นำใหม่ให้กับพนักงานทุกคนทั่วโลกในปี2562 เฮงเค็ล วางแผนที่จะเร่งสร้างวัฒนธรรมองค์กรด้วยความมุ่งมั่นเหล่านี้ที่เป็นแกนหลัก และจะส่งเสริมวัฒนธรรมการทำงานร่วมกันและเพิ่มพูนทักษะของพนักงานเกี่ยวกับความสามารถในอนาคต และช่วยให้พนักงานเติบโตและพัฒนาต่อไป
“กรอบกลยุทธ์ใหม่ของเราสำหรับการเติบโตอย่างมีจุดมุ่งหมายสะท้อนให้เห็นถึงความมั่นคงทางการเงินระยะกลางถึงระยะยาวของเรา ทั้งในเรื่องของการเติบโตของยอดขายตามปกติระหว่าง 2 ถึง 4 เปอร์เซ็นต์ กำไรสุทธิที่มีการปรับตัวเลขแล้วต่อการเติบโตของหุ้นบุริมสิทธิในอัตราปานกลางถึงสูงของเลขหลักเดียว ด้วยอัตราแลกเปลี่ยนคงที่ และเรื่องของการขยายตัวของกระแสเงินสดหมุนเวียนที่เราจะยังคงมุ่งเน้นอยู่ต่อไป” คาร์สเทน โนเบลกล่าว
“โดยสรุปก็คือ เราเชื่อมั่นว่าเราได้วางรากฐานสำหรับการพัฒนาไปสู่ความสำเร็จในอนาคตของเฮงเค็ลแล้ว ตอนนี้เราจะมุ่งเน้นไปที่การทำให้มาตรการเหล่านี้ช่วยผลักดันการเปลี่ยนแปลงและพัฒนาวาระการเติบโตของเราต่อไป” คาร์สเทน โนเบลกล่าว
* ไม่รวมถึงผลิตภัณฑ์กาวซึ่งมีสารประกอบบางอย่างอันอาจส่งผลกระทบต่อการนับนำมาใช้ใหม่หรืออาจทำให้วงจรของการรีไซเคิลต้องเสียไป
ข้อมูลเพิ่มเติม